ยินดีต้อนรับสู่คลินิกทันตกรรมแมจิกสไมล์

คลินิกทันตกรรมแมจิกสไมล์ เราให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร โดยทีมทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและให้การรักษา ด้วยความเอาใจใส่ และทีมงานที่พร้อมให้บริการด้วยความอบอุ่นเป็นกันเองโดยให้ ความสำคัญแก่ผู้รับบริการอย่างสูงสุด เรายึดมั่นในการให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ระดับสากล ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพเยี่ยมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีความปลอดภัย สถานที่ตั้งที่สะดวกสบาย เดินทางสะดวกห่างจากสนามบิน ไม่ถึง 5 นาที พื้นที่จอดรถมากกว่า 50 คัน 

โปรโมชั่น

ประกันสังคมทืำฟันฟรี 900 บาท

รีบมาใช้สิทธิ์กัน ก่อนสิ้นปี

โปรโมชั่นต้อนรับเปิดเทอมสำหรับนักเรียน นักศึกษา

ผ่อนจ่ายราคาเบาๆ สบายกระเป๋า จะมาเดี่ยวหรือมาคู่ ก็คุ้ม!!

โปรโมชั่น ปักรากทียม

โปรโมชั่นปักรากทียม เพียง 45,000 บาท จากปกติ 49,000 บาท รวมครอบฟันแล้ว!!

โปรโมชั่น ขูดหินปูนและขัดฟัน ร่วมกับการใช้เครื่องขจัดคราบ(Air Flow)

ขจัดปัญหาคราบหินปูนติดแน่น จากชา กาแฟและบุหรี่

โปรจัดฟันสุดปัง

เทคนิคจัดฟันร่วมกับมินิสกรูขั้นสูงจากเกาหลี ประสบการณ์มากกว่า 5000 เคส เคลียร์เร็ว ติดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ฟันสวย หน้าสวย เสร็จเร็ว ไม่เลี้ยงไข้ ไม่จุกจิก #จัดแล้วต้องสวย

ข่าวสารและบทความ

  • 8 มิ.ย. 2564

การดูแลสุขภาพฟันแต่ละช่วงวัย ตอนวัยรุ่น

เมื่อลูกอายุ 14 ปีขึ้นไป หรือลูกเริ่มเป็นวัยรุ่นหรือหนุ่มสาว ในปากจะมีแต่ฟันแท้ซึ่งขึ้นเกือบครบ 32 ซี่ ยกเว้นฟันกรามสุดท้าย 4 ซี่ ที่จะขึ้นเมื่ออายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีฟันผุมากที่สุดเพราะมักหักง่าย และชอบกินชอบขบเคี้ยว ขนมหวาน ลูกอมต่าง ๆ นอกจากนั้นมักจะมีปัญหาโรคเหงือกอักเสบที่เป็นกันมาก เพราะไม่ค่อยรักษาความสะอาดปากและฟัน ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทำให้การอักเสบที่มีเล็กน้อย ทวีความรุนแรง โดยจะต้องดูแลดังนี้

กินอาหารที่เป็นประโยชน์และลดอาหารที่เป็นโทษต่อฟัน เช่น อาหารหวาน ติดฟันง่าย เปรี้ยวจัด เปื่อยไปเหนียวไป หรือแข็งเกินไป ฝึกกินอาหารให้เป็นเวลา เพราะการกินอาหารระหว่างมื้อบ่อย ๆ โดยเฉพาะของหวานเหนียวติดฟัน จะทำให้ฟันผุง่าย ใช้ฟันให้ถูกต้อง ไม่ควรใช้ฟันขบกัดของแข็ง อาทิ ปากกา ดินสอ ตะปู เข็ม หรือเปิดจุกขวด เพราะจะทำให้ฟันแตกบิ่นเสียหาย หรือโยกคลอนได้ง่ายรักษาความสะอาดช่องปากและฟันโดยแปรงฟันอย่างถูกต้อง

หัดตรวจฟันตนเองทุกวันหลังแปรงฟัน และให้ทันตแพทย์ตรวจฟันอย่างน้อยปีละครั้ง เพราะถ้าพบสิ่งผิดปกติจะได้รีบรักษาแก้ไขได้

โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลสุขภาพ หรือโทร.1719

ที่มา : https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/dental-cosmetic-and-implant-center-th/dental-articles-th/item/1093-tooth02-th.html

อ่านเพิ่มเติม
  • 7 มิ.ย. 2564

รากฟันเทียม เพิ่มบุคลิกภาพ และการบดเคี้ยวดั่งฟันธรรมชาติ

เมื่อสูญเสียฟัน ควรที่จะต้องได้รับการใส่ฟันทดแทน โดยรากฟันเทียมเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้กลับมาใช้งานฟันซี่นั้นได้เป็นปกติอีกครั้ง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งยังคงความสวยงามไว้ได้

รู้จักรากฟันเทียม

รากฟันเทียมเป็นการนำรากเทียมที่ทำมาจากวัสดุไทเทเนียมหรือเซรามิกที่มีลักษณะคล้ายสกรูใส่เข้าไปในขากรรไกร โดยใช้รากฟันเทียมเป็นหลักยึดครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมถอดได้ทั้งปากเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยใช้เวลาในการรักษาทั้งหมดประมาณ 3-6 เดือน โดยระยะเวลาและจำนวนครั้งในการมารับการรักษาขึ้นกับปัจจัยหลายประการ เช่น ปริมาณและคุณภาพของกระดูกขากรรไกร จำนวนฟันที่ต้องการทำรากฟันเทียม เป็นต้น

ทำไมต้องทำรากฟันเทียม

จุดประสงค์ของรากฟันเทียมนั้นเป็นไปเพื่อการทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยสามารถใช้รากฟันเทียมเพื่อยึดครอบฟันหรือสะพานฟันเพื่อเป็นฟันที่ติดแน่นในปากเลย หรือใช้ยึดฟันปลอมถอดได้ ช่วยให้ฟันปลอมถอดได้มีการยึดอยู่ที่แน่นขึ้น ไม่หลวมหลุดง่าย

เตรียมตัวก่อนรักษา

หากทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าควรทำรากฟันเทียม การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียมนั้นประกอบด้วย

1.พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพช่องปาก

2.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอยู่เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการรักษา โดยทั่วไปหากสามารถควบคุมโรคประจำตัวได้ดีก็สามารถรับการรักษาโดยใช้รากฟันเทียมได้ เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กภายใต้ยาชาเฉพาะที่

กระบวนการทำรากฟันเทียม

1.ทันตแพทย์ทำการตรวจสภาพช่องปากและเตรียมสภาพช่องปากให้เรียบร้อย

2.ถ่ายภาพรังสีเพื่อดูปริมาณกระดูกและอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3.พิมพ์ปากผู้ป่วย เพื่อนำมาวางแผนการรักษา

4.ในบางกรณีอาจต้องมีการถ่ายภาพรังสี 3 มิติเพิ่มเติม

5.ทันตแพทย์ผ่าตัดเพื่อใส่รากเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสม ในบางกรณีอาจต้องมีการผ่าตัดเสริมกระดูกก่อน

6.รอให้กระดูกยึดเกาะกับรากฟันเทียมให้แน่น  ประมาณ 2-3 เดือนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณและคุณภาพของกระดูกผู้ป่วย เป็นต้น

7.เมื่อรากเทียมติดแน่นกับกระดูกดีแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ฟัน ทำครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอม และนำมาใส่ในช่องปากต่อไป

8.นัดพบผู้ป่วยเพื่อตรวจติดตามอย่างเหมาะสม

การดูแลหลังทำรากฟันเทียม

  • แปรงฟันให้สะอาด
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งเกินไป เช่น กระดูกอ่อน
  • พบทันตแพทย์ตามเวลาที่กำหนด ทุก 3 หรือ 6 เดือน

ข้อดีของการทำรากฟันเทียม

  • รับประทานอาหารได้ปกติ
  • ดูแลทำความสะอาดง่าย คล้ายการดูแลฟันธรรมชาติ
  • ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจในการใช้ชีวิต
  • สุขภาพและคุณภาพชีวิตดีขึ้น
  • อายุการใช้งานนาน โดยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้ป่วย

ที่มา : https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/dental-cosmetic-and-implant-center-th/dental-articles-th/item/2576-implants-th.html

อ่านเพิ่มเติม